ชื่อ(สุนัข) สำคัญไฉน
ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ.. . บทความนี้เขียนให้ทราบเกร็ดเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการตั้งชื่อลูกสุนัขว่ามีเทคนิคการตั้งอย่างไร ไม่ถึงขนาดดูฤกษ์ดูยามหรอกค่ะ แล้วก็ไม่ต้องพึ่งหมอดูด้วย ^^”
ในสมัยก่อนตอนเด็กๆไปเที่ยวบ้านคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย เขานิยมเลี้ยงสุนัขไว้เฝ้าบ้านส่วนใหญ่ก็เป็นสุนัขไทยแลนด์ดีๆนี้แหละไม่ใช่สุนัขนอกที่นิยมเลี้ยงกัน ในเรื่องของอาหารคุณเธอก็จะเป็นน้ำและเศษอาหารตามมีตามเกิด และไม่ท้องเสียเมื่อทานอาหารบูดไม่แปลกหรอกค่ะเพราะเขาชินกับอาหารแบบนั้น เอ้า..พูดมาตั้งนานไม่เห็นเกี่ยวกับชื่อสุนัขเลย เอาเป็นว่าเข้าเรื่องกันดีกว่า การตั้งชื่อสุนัขก็มีส่วนสำคัญไม่ใช่เล่นเหมือนกันนะเพราะถ้าตั้งชื่อคำพยางค์เดียวคงไม่เหมาะ ซักสองพยางค์น่าจะดี เช่น “ฮอนด้า” (เจ้าของชอบรถ) , “โตโต้” เป็นต้น ไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาต่างประเทศภาษาไทยเราก็ใช้ได้ เช่น “ออดอ้อน” (ฟังดูแล้วไม่ดุแต่ยิ้มฟันเต็มปาก) “ตักบุญ” (แหม.. ธรรมะจิงๆ) การตั้งชื่อสองพยางค์ที่สำคัญเลยคือจะทำให้เขาจำชื่อเขาได้ง่ายเพราะถ้าตั้งชื่อพยางค์เดียวเช่น “ซู” เรียกครั้งเดียวอาจจะไม่หัน แต่ถ้าเรียกสองพยางค์ เช่น “ซูซี่” เป็นการเน้นคำเขาก็มักจะหันมาเองลองดูก็ได้ถ้าซื้อสุนัขมาใหม่ๆ แต่ขอบอกก่อนนะว่าไม่ควรตั้งชื่อเหมือนชื่อคน(โดยเฉพาะคนข้างบ้าน) เดี๋ยวบ้านแตก เรียกคนหมาหัน เรียกหมาคนหัน อะไรทำนองนั้น บางทีก็เคยเห็นคนเขาตั้งชื่อสุนัขเลียนเสียงแมวเช่น “เหมียวๆ” ปรากฏว่าหมาไม่หันหรอก จานบินลอยมาแทนหรือไม่ก็หินปลิวมาจากข้างๆบ้านนี่แหละ (ฮ่าๆ)หรือไม่ก็แมวมาแทน สับสนเลยค่ะขอแนะนำให้เปลี่ยนเหอะ เอาล่ะพอจะทราบกันคร่าวๆก็ลองนำไปใช้กันดูนะคะ ส่วนสุนัขที่เห็นในภาพนี้เป็นสุนัขพันธุ์ บีเกิ้ล ที่กำลังเลี้ยงอยู่ค่ะ มีชื่อว่า “ซูโม่” กับ “ซูชิ” ชื่อคล้ายๆกันตอนที่เรียกแรกๆก็เรียก “ซูโม่” แต่ “ซูชิ” มาแทน บ้างตอนนี้เขาจำชื่อของตัวเองได้แล้วค่ะ ตอนนี้อายุ 9 เดือนกว่าๆแล้ว (ส่วนในรูปนั้นเป็นรูปตอนประมาณ3เดือนค่ะ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น