วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

มหัศจรรย์ลำไยอบแห้ง

  มหัศจรรย์ลำไยอบแห้ง   

 ลำไยอบแห้ง


            คุณรู้หรือไม่ว่าลำไยอบแห้งมีประโยชน์อย่างไร และ ทำไมลำไยอบแห้งถึงได้รับความนิยม  อย่างแพร่หลายในประเทศจีนเรื่องราวที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้ จะทำให้คุณได้รู้จักสรรพคุณของลำไยอบแห้ง ในมุมที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนในทางการแพทย์แผนโบราณของจีน นิยมใช้ลำไยอบแห้งมาเป็นส่วนผสม   ในตัวยา เนื่องจากเนื้อลำไยอบแห้งมีรสหวาน มีสรรพคุณทางยา บำรุงม้าม บำรุงหัวใจ และยังมีสรรพคุณใช้บำรุงเลือด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการไหลเวียนของโลหิต ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการนอนไม่หลับ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยบำรุงกำลังของสตรี ภายหลังจากการคลอดบุตร บำรุงประสาทตา และสามารถป้องกันเชื้อโรคบางชนิดได้ ในตำรายาจีนโบราณได้นำลำไยอบแห้งมา ต้มกับโสม เพื่อรักษาโรคอัลไซเมอร์ใน ผู้สูงอายุ นอกจากนี้ชาวจีนยังนิยมทานลำไยอบแห้ง หรือต้มดื่มน้ำลำไยอุ่นๆ บ้างก็เอามาปรุงเป็นอาหาร หั่นฝอยผัดกับข้าวก็ได้ หรือจะเอามาต้มน้ำแกงก็มีประโยชน์ต่อ ผิวพรรณและสุขภาพเช่นกัน
 งาน วิจัยในประเทศญี่ปุ่น พบว่า เนื้อลำไยแห้งช่วยระงับประสาทที่อ่อนเพลียจากการ          ตรากตรำทำงานหนัก ลดอาการเครียด กระวนกระวาย นอนไม่หลับ “ถ้านำลำไยอบแห้งไปต้มแล้วดื่ม แต่น้ำก่อนนอน…ช่วยให้หลับสบาย”ใน ประเทศไทย ผลการวิจัยลำไยแห้ง โดย รศ.ดร.อุษณีย์ วินิจเขตคำนวณ   ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พบว่าในลำไยแห้งมีฤทธิ์ยับยั้ง  สารก่อมะเร็ง ช่วยลดอนุมูลอิสระในเม็ดเลือดขาว และในอนาคตอาจนำมาใช้ร่วมกับการรักษามะเร็งเพราะ ให้ผลข้างเคียงน้อยลงหรือ ไม่มีเลย ทำให้ลดขนาดการใช้ยาหรือเคมีบำบัดลงที่มีผลข้างเคียงมากกว่า ทั้งยังยืนยันสรรพคุณ ประโยชน์ของลำไยว่ามีสารออกฤทธิ์เหนี่ยวนำเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่และเซลล์ มะเร็งเม็ดเลือดขาวให้ตาย สารที่ยับยั้งความเป็นพิษของสารก่อมะเร็งทางเดินอาหาร สารที่ออกฤทธิ์ลดการเสื่อมสลายของข้อเข่า ผลการวิจัยล่าสุดได้พบว่าลำไยแห้งสามารถออกฤทธิ์ทำลายและ  ต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีผิวเมลานิน ได้ดีกว่าสารเคมีที่ใช้ในเครื่องสำอางปัจจุบัน.

ประวัติบ้านฉางข้าวน้อยใต้


 รูปพระธาตุกู่ครูบาคางเป็ด วัดฉางข้าวน้อย
         บ้านฉางข้าวน้อยใต้ ตามประวัติแจ้งว่าเริ่มก่อตั้งเมื่อ  พ.ศ.2350 โดยครูบาคัณธา เรวจฺจ  ถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ที่สิบสองปันนา และยังมีครูบาปินตา  ได้ร่วมเดินทางด้วยกัน ท่านได้ถูกภัยธรรมชาติคุกคาม จึงได้ชักชวน ศรัทธา ชาย-หญิงเดินทางรอนแรมกันมาเป็นเวลาหลายวัน  จนมาถึงที่ ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ ถูกต้องตามตำราทุกอย่าง ซึ่งมีแม่น้ำทาไหลผ่านทางด้านทิศตะวันออกเหมาะแก่การตั้งรกราก
เป็นอย่างยิ่ง ครั้นนั้นเวลาก็ใกล้จะเที่ยงเต็มที คณะศรัทธาจึงได้ถวายอาหารเพลแก่ครูบาท่าน 
ครั้นฉันท์ไปได้เพียงคำเดียว เวลาก็จะเที่ยงเสียแล้ว ครูบาท่านทั้งสองจึงได้ชวนคณะศรัทธา ตั้งหลักปักฐานกัน ณ ที่แห่งนี้โดยครูบาปินตา  ได้พาชาวบ้านส่วนหนึ่ง แยกไปตั้งหมู่บ้านอีกที่หนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างไกลกันมากนักและคณะศรัทธาได้ช่วยกันสร้างวัดขึ้น โดยให้ชื่อว่า วัดสันเข้าน้อย ที่ให้ชื่อว่าวัดสันเข้าน้อย 
ก็เพราะว่าสมัยนั้นเจ้าผู้ครองเมืองหิริภูชัย คือเจ้าภารดี ภูธรบวรได้มาตั้งฉางเก็บข้าวไว้ในหมู่บ้าน 
โดยสร้างเป็นหลังเล็กๆ(น้อย) จึงตั้งชื่อบ้านและวัดว่า สันข้าวน้อย ต่อมากลายเป็นฉางข้าวน้อย 
จึงเรียกกันว่า วัดฉางข้าวน้อยใต้ เนื่องจากว่ามี วัดฉางข้าวน้อยอยู่2แห่งคือ วัดฉางข้าวน้อยใต้ และ
วัดฉางข้าวน้อยเหนือ
  ลักษณะ ทำเลที่ตั้ง
       บ้านฉางข้าวน้อยใต้  ตั้งอยู่ในอำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน  มีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 ผ่าน
( ถนนลำพูน-ลี้ )อยู่ห่างจากตัวอำเภอป่าซาง 3 กิโลเมตร
v      ทิศเหนือ  ติดกับ บ้านฉางข้าวน้อยเหนือ
v      ทิศตะวันออก  มีแม่น้ำทาเป็นแนวเขต กั้นระหว่าง อำเภอป่าซางกับอำเภอเมือง ลำพูน
v      ทิศตะวันตก  ติดกับตำบล แม่แรง
v      ทิศใต้  ติดกับ บ้านสะปุ๋ง ตำบลม่วงน้อย
v      มีแม่น้ำทา ไหลผ่านทางทิศตะวันออก มีฝายกั้นน้ำทั้งหมด 3 ฝาย เป็นลำเหมืองที่ใช้ประโยชน์ในทางการเกษตร
พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ
          ( 1 )  ข้าว   เกษตรกรนิยมบริโภคข้าวเหนียว มากกว่าข้าวเจ้า พันธุ์ข้าวที่ใช้ในการเพาะปลูกก็คือ พันธุ์ กข6 เหนียวสันป่าตอง ผลผลิตส่วนใหญ่ใช้บริโภคกันในครอบครัวไม่พอเพียงที่จะขาย จะมีการนำเข้าข้าว มาจากจังหวัดใกล้เคียง เช่น เชียงใหม่ เชียงราย พะเยาเป็นต้น เพื่อนำมาขายในพื้นที่ในปัจจุบัน   พื้นที่ในการปลูกข้าวลดลงเนื่องจากเกษตรกร ใช้พื้นที่ปลูกลำไยกันมาก
          ( 2 ) กระเทียม เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ เพราะมีสภาพดินฟ้าอากาศที่เอื้ออำนวย สภาพดินและน้ำเหมาะแก่การเพาะปลูก
          ( 3 )  หอมแดง  หอมแดงเป็นพืชอายุสั้น ใช้เวลาปลูกประมาณ 2-3เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ และก็นิยมปลูกกันมากในอำเภอ ป่าซาง
          (4 ) ลำไย  เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีชื่อเสียงมากของจังหวัดลำพูน สามารถปลูกได้ทั่วไปในทุกๆอำเภอ พันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากได้แก่ พันธุ์อีดอ 

กุ้งแคระสวยงาม


กุ้งเรดบี ราชันย์ แห่งกุ้งแคระสวยงาม



          กุ้งเรดบีเป็นกุ้งแคระสวยงาม กุ้งแคระชนิดนี้ได้รับความนิยมในประเทศไทย เมื่อไม่กี่ปีนานมานี้ ส่วนใหญ่ คนจะสนใจกุ้งเคระชนิดอื่นที่ราคาถูกกว่า เช่น กุ้งแคระเชอรี่ เพราะกุ้งชนิดนี้หาซื้อง่าย        เลี้ยงง่าย เหมาะแก่ภูมิอากาศของประเทศไทยสามารถเพาะพันธุ์ได้ง่ายกุ้งแคระที่ได้รับความนิยมมีอีกหลายสายพันธุ์ อาทิเช่น  Tiger Shrimp, Bee Shrimp, Blue Shrimp, Green Shrimp, และ Blackberry Shrimp, ซึ่งแต่ละชนิดมีเอกลักษณ์ที่สวยงามไม่แพ้กันเลย แต่การเลี้ยงต้องยกให้กุ้งเชอรรี่ค่ะเพราะตายยาก ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ไม่ต้องใช้งบประมาณในการเลี้ยงมาก คนที่สนใจกุ้ง จึงเข้ามาเวปของคนเลี้ยงกุ้งทำให้ ได้พบกับกุ้งที่สวยที่สุดในบรรดากุ้ง เป็นราชาของกุ้งแคระเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ กุ้บี

ประวัติความเป็นมาของ Red Bee Shrimp
     กุ้งเรดบี ถือกำเนิดครั้งแรกเมื่อ 10 ปี ที่แล้วในประเทศญี่ปุ่นโดย Mr.Hisayasu Suzuki. บุคคลคนนี้ได้นำกุ้งบีธรรมดา (Bee Shrimp "Caridina serrata") มาผสมพันธุ์กันโดยใช้หลักการผสมพันธุ์แบบสายเลือดชิด (Inbreed) เราสามาถรถพบ Bee Shrimp ได้ตามลำธารทางตอนใต้ของประเทศจีน  
Bee Shrimp และกุ้งแคระในตระกูล "Caridina" เมื่อโตเต็มที่จะยาวเพียง 3-4 เซนติเมตรเท่านั้น ลักษณะโดยทั่วไปของ Bee Shrimp ลำตัวจะสั้นป้อม มีตั้งแต่สีน้ำตาลเข้ม สีดำไปจนถึงสีดำเหลือบน้ำเงิน มีปล้องสีขาวจางๆ สลับใส ตรงปลายส่วนหัวบริเวณกรีกลางลำตัว และอาจมีบ้างบริเวณปลายหาง การเลี้ยงกุ้งเรดบีต้องมีความชำนาญ คลุกคลีกับการกุ้งมาก่อนและมีประสบการณ์ทางด้านนี้อยู่พอสมควรอีกทั้งยังต้องมีกำลังทรัพย์ที่สามารถจะไปลงทุนกับความสวยงามของกุ้งชนิดนี้ สิ่งที่จำเป็นของกุ้งชนิดนี้คือ  น้ำต้องเย็น ช่วง 23-25องศา เป็นช่วงที่เลี้ยงเรดบีรอดมากที่สุด ที่สำคัญต้องมีค่า ph    อยู่ช่วง 4-7 เป็นช่วงที่เหมาะสมค่า gh ประมาณ 4ต้องเลี้ยงโดยใช้ดินที่มีแร่ธาตุเหมาะสมกับกุ้งแคระชนิดนี้ ต้องมีกรองนอกเพื่อนช่วยกำจัดของเสียเพราะกุ้งมีของเสียมากค่ะอุปกรณ์ต่างๆที่พูดมาเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน ถ้าที่บ้านมีน้ำประปาที่อุณหภูมิ ประมาณ23-25 องศา ก็สารถเลี้ยงได้ค่ะ หรือถ้ามีอากาศภายในห้องที่เย็นจนทำให้น้ำเย็นไปด้วย ไม่อย่างนั้น ต้องติด ชิลเลอร์หรือ ติดแอร์ ไปเลย เพราะกุ้งจะสามารถอยู่ได้และสืบพันธ์ได้เมื่อมีอุณหภูมิประมาณนี้ราคา ของอุปกรณ์ทุกชิ้นรวมกัน ราคาหมื่นต้นๆ แต่ถ้าไม่ติดเครื่องทำความเย็น เพราะว่าไม่ต้องใช้ ก็ลดราคาลงมาเหลือประมาณ 2000 – 5000 บาทค่ะ

 รูปตู้กุ้งเรดบีที่มีชิลเลอร์และกรองนอกค่ะ